Dove เป็นผู้ผลิต Syndet bars เจ้าแรกของโลก


                                                นี่คือตัวอย่างของSyndet bars

3. Combinational bars หรือ Combo bars
Combo bars เป็นการนำจุดเด่นของสบู่ธรรมชาติและ Syndet bars มาผนวกกัน.ที่เห็นในท้องตลาดส่วนใหญ่จะเป็น Combo bars.

2. Syndet bars or Detergent bars
           

                     จะเรียกก้อนทำความสะอาดหรือสบู่สังเคราะห์หรือ Synthetic surfactant based(syndet)bars ก็ได้.ส่วนประกอบในก้อนทำความสะอาดพวกนี้มีดังนี้.
1. Surfactant (สารลดแรงตึงผิว) ประมาณ 30-70 %
เป็นสารทำหน้าที่ชำระล้าง.  นอกจากนี้สารลดแรงตึงผิวยังมีความสำคัญต่อการแก้ปัยหาสิ่งแวดล้อมช่วยบำบัดน้ำเสียกำจัดคราบน้ำมันและอื่นๆที่แวนลอยหรือพวกครอรอยด์ในน้ำ.การเลือกใช้สารลดแรงตึงผิว,ปริมาณหรือความเข้มข้นขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ในการใช้งานและไม่สร้างปัญหาให้สิ่งแวดล้อมโดยควรเลือสารลดแรงตึงผิวที่ธรรมชาติสามารถย่อยสลายได้.ความสามารถในการย่อยสลายขึ้นอยู่กับโครงสร้างของสารลดแรงตึงผิวนั้นๆและต้องใช้ในปริมาณที่พอเหมาะ.ปริมาณสารลดแรงตึงผิวในน้ำที่เราใช้ดื่มควรอยู่ที่ 0.5 มิลลิกรัมต่อลิตร.
           Surfactant ที่นำมาใช้ใน Syndet bars จะเป็นกลุ่ม anionic surfacttant คือสารลดแรงตึงผิวที่มีประจุลบเช่น Alkylbenzenebenzoate(ABS).Acylisethionate ฯลฯ.
2.Plasticizer/Binder ปริมาณที่ใช้ 10-30% โดยทำหน้าที่เป็นตัวเชื่อมประสานให้สบู่สังเคราะห์ขึ้นรูปและไม่แตก,มีฟองมาก เช่น Fatty acid ethanolmide.
3. Filler ปริมาณที่ใช้ 10-30 %เป็นกลุ่มสารเติมแต่งเพื่อให้สบู่คงรูปแข็งอยู่ได้แม้จะอยู่ในน้ำเช่น Borax,Mannitol ฯลฯ.
4.Additive ปริมาณที่ใช้ 0.20% เป็นสารเพิ่มกลิ่น,กำจัดแบคทีเรีย,เพิ่มความชุ่มชื้น,คอลลาเจน เช่น PEG 600 ซึ่งเป็นสารให้ความชุ่มชื้นกับผิว.
5. Water 3-10%
ข้อดีของสบู่สังเคราะห์คือสามารถแต่งเติมสารหรือยาลงในสูตรได้ดีกว่าสบู่ธรรมชาติ.แต่องค์การอาหารและยาของประเทศสหรัฐอเมริกาได้ระบุในเงื่อนไขว่าก้อนทำความสะอาดจำพวกนี้ห้ามใช้คำว่า Soap กับผลิตภํณฑ์. Soap ต้องมาจากการทำปฏิกิริยาของน้ำมันกับน้ำด่างเท่านั้น.            
แหล่งข้อมูล:https://www.facebook.com/permalink.php?story_fbid=1217154581649957&id=548013545230734&substory_index=0


Natural soaps, Syndet bars VS Combo bars
                         

                        จะว่าไปแล้วมีคนน้อยคนมากที่จะมีความเข้าใจผลิตภัณฑ์เพื่อทำความสะอาดโดยเฉพาะกลุ่มผลิตภัณฑ์อาบน้ำ. ทุกครั้งที่ไปซื้อก็มักจะเรียกผลิตภัณฑ์กลุ่มนี้ว่าสบู่.
ผลิตภัณฑ์ที่ใช้ในการอาบน้ำแบ่งเป็น 3 กลุ่มใหญ่ๆ
1. Natural soaps หรือ Traditional soaps
สบู่ธรรมชาติโยเกิร์ตนมแพะผสมรังไหม TAYAWON

            Natural soaps หรือ Traditional soaps นี้เป็นการผสมผสานระหว่างน้ำมันหรือไขมันกับน้ำด่างผ่านปฏิกิริยาทางเคมีที่เรียกกันว่า "Saponification Reaction" ในยุคโบราณน้ำด่างที่นำมาใช้จะเป็นการนำเถ้าถ่านของไม้มาแช่ไว้ในน้ำจนน้ำกลายสภาพเป็นน้ำด่าง.ในประเทศที่อยู่มนแถบทะเลเมดิเตอร์เรเนี่ยนจะใช้ผิวน้ำทะเลมาใช้เป็นน้ำด่าง. ไขมันที่ใช้เป็นไขมันจากสัตว์.แต่ในปัจจุบันผู้ผลิตสบู่ธรรมชาติต่างหันมาใช้น้ามันจากพืชทดแทนการใช้น้ำมันจากสัตว์เพราะแรงต่อต้านมิให้มีการฆ่าสัตว์รวมไปถึงการมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์.น้ำด่างฟังดูน่ากลัวสำหรับบางคน.และบางคนถึงกับคิดไปว่าน้ำด่างก่อให้เกิดความระคายเคืองกับผิว. สภาพธรรมชาติของผิวของมนุษย์มีความเป็นกรดอ่อนๆ. ค่า Ph ของผิวมนุษย์จะมีค่าอยู่ระหว่าง 7.5-8.0. ในความเป็นจริงแล้วหลังจากด่างทำปฏิกริยากับน้ำมันโดยสมบูรณ์แล้วความเป็นด่างจะหายไปน้ำมันและด่างหลังเกิดปฏิกิริยา Saponification Reaction จะเปลี่ยนสภาพเป็นเกลือโซเดียมและกลีเซอรีน. เกลือโซเดียมนี่เองที่ถูกเรียกว่าสบู่. กลีเซอรีนที่ได้จากปฏิกิริยาถือเป็นผลิตภัณฑ์ข้างเคียงจากปฏิกิริยา.กลีเซอรีนถูกค้นพบครั้งแรกเมื่อปี ค.ศ. 1779 โดยนักเคมีขาวสวีเดิน ชือ Carl W.Scheele จากการทดลองปฏิกิริยาSaponification Reaction คำว่า กลีเซอรีนมาจากคำว่า glykys แปลว่า "หวาน" ในระยะแรกเป็นส่วนผสมในกาวทำให้กาวมีความเหนียวขึ้น.และยังนำมาใช้ในการทำน้ำหมึกและสีย้อม. ต่อมามีการนำมาใช้ในการทำระเบิดไดนาไมต์ในรูปของไตรกลีเซอรีนโดยนำมาผสมกับซิลิกา.กลีเซอรีนยังมีชื่อเรียกในแบบดื่นๆอีกเช่น propane-1,2,3-triol , 1,2,3-propanetriol, 1,2,3-trihydeoxypropane, glyceritol และ glycyl alcohol.
ประโยชน์
1. ใช้เป็นตัวทำละลายสามารถละลายได้ดีทั้งในน้ำและแอลกอฮอล์
2. ใช้เป็นสารตั้งต้นในการผลิตโฟม
3.ใช้ทดแทนน้ำตาล
4.กลีเซอรีนสามารถอุ้มความชื้นในบรรยากาศได้ดีจึงนิยมมาใช้ในการทำเครื่องสำอางทำหน้าที่เป็นตัว Emulsifier.
5. ใช้ในอุตสาหกรรมพลาสติกเพื่อให้พลาสติกมีความยืดหยุ่นและอ่อนตัว
6.เป็น Thickening agent หรือ Bodying agent เพราะสามารถให้ความหนืดได้
7.ใช้เป็นBase ของสบู่กลีเซอรีน,สบู่ใส
กลีเซอรีน
8. ใช้เป็นยาเหน็บทวาร
9. ใช้ในการยืดเวลารักษาสภาพผักและผลไม้ให้คงความสดได้นานยิ่งขึ้น.
จะเห็นว่ากลีเซอรีนที่ได้จากการผลิตสบู่ธรรมชาติมีคุณค่ามากมายมหาศาล.ในทางกลับกันในอุตสาหกรรม ที่ใช้ ปฏิกิริยา Saponification reaction .สิ่งที่อุตสาหกรรมเหล่านี้ต้องการจึงไม่ใช่สบู่แต่เป็นกลีเซอรีน.
Natural Soaps โดยทั่วไปจะไม่มีการนำGlycerine ออก.และคุณสมบัติที่เด่นอีกอย่างหนึ่งของNatural soaps คือธรรมชาติสามารถย่อยสลายได้ในเวลาที่รวดเร็วไม่เป็นภัยต่อสิ่งแวดล้อม.


                             ความเป็นมาของสบู่ค่อนข้างสับสนแต่ที่มีการบันทึกอย่างจริงจังคือยุครุ่งโรจน์ของกลุ่มชนบาบิโลเนี่ยน.กล่าวสืบกันมาว่ามีการผลิตสบู่กันมาตั้งแต่ 2800 ปีก่อนคริสต์ศักราช.ในยุคนั้นว่ากันว่าในกระบวนการผลิตมีการใช้น้ำที่มีค่าเป็นด่างมาผสมกับไขมัน.ในยุคนั้นสบู่ถูกใช้เพื่อทำความสะอาดผ้าขนสัตว์,ผ้าฝ้ายและใช้ในทางการแพทย์อย่างถ้านับเวลาก็อยู่ในช่วงประมาณ 5000 ปี.
                               ตำราสมัยโบราณที่มีการบันทึกไว้บนกระดาษปาปิรัส(Egypt,1550 BC)บันทึกไว้ว่าอิยิปต์ในยุคโบราณนำน้ำมันทั้งจากพืชและสัตว์มาผสมกับเกลือของด่างเพื่อผลิตสารที่ใช้ทำความสะอาด.
                             ก่อนคริสต์ศักราช 600 ปี. Pliny the Elder นักประวัติศาสตร์ผู้มีชื่อเสียงชาวฟินีเซียนที่อาศัยอยู่รอบ ๆ ทะเลเมดิเตอเรเนียนบันทึกไว้ว่าชาวฟีนีเซียนนำไขมันจากแกะผสมกับเถ้าถ่านจากไม้มาผสมกันเพื่อทำสบู่.
                           ชนชาวโรมันรู้จักสบู่และผลิตสบู่ในช่วงคริสต์กาลและถูกนำมาใช้กันอย่างแพร่หลายตั้งแต่นั้นมา.
                           พวกCeltที่อาศัยอยู่บนเกาะอังกฤษใช้ไขมันจากสัตว์มาผสมกับน้ำด่างที่ได้จากการนำเถ้าถ่านจากไม้มาละลายน้ำและเรียกมันว่า Saipo จึงสันนิษฐานว่าคำว่า Soap น่าจะมีที่มาจากคำนี้.
                          จะเห็นว่าทั้งชาวบาบิโลเนี่ยน,อิยิปต์,กรีกและโรมัน.ไม่มีใครใช้สบู่เพื่ออาบน้ำเลย.สบู่ในยุคนั้นใช้เพื่อทำความสะอาคเครื่องมือเครื่องใช้ในการปรุงอาหารและใช้ในทางการแพทย์เท่านั้น.
                           ในอีกด้านหนึ่งPliny the Elder ก็แย้งมาว่าคำว่า Soap น่าจะมีที่มาจากเทือกเขา Sapo ที่อยู่ในเขตปกครองของชาวโรมัน.โดยชาวบาบิโลเนี่ยนก่อนคริสต์ศักราช 2800 ปี.และถูกใช้ในอุตสาหกรรมสิ่งทอและทางการแพทย์เท่านั้น
                  ในยุคต้นๆการผลิตสบู่เป็นเรื่องยุ่งยากและไม่มีการเปิดเผย.ส่วนใหญ่มีการนำมาใช้เพื่อล้างจานชามและใช้ในทางการแพทย์เท่านั้น.และการผลิตสบู่ก็ทำกันในวงแคบๆและวิธีผลิตก็รับรู้กันในวงแคบๆเท่านั้น.สบู่ในยุคนั้นจึงมีราคาค่อนข้างแพงและหายาก.ต่อมาขั้นตอนการผลิตสบู่เริ่มเป็นที่รู้กันแพร่หลายมากยิ่งขึ้นแต่ราคาสบู่ก็ยังแพงอยู่ดี.จนกระทั่งเวลาผ่านไป 20 ปี



ในปี 1971 เป็นปีที่ชาวฝรั่งเศสคนหนึ่งค้นพบกระบวนการทางเคมีในการผลิตสบู่เขาพบความสัมพันธ์ระหว่างกลีเซอรีน,กรดและไขมัน. และในปี 1800 ราคาสบู่เริ่มลดลงอย่างเห็นได้ชัดนับเป็นการเปิดศักราชใหม่ของสบู่.หลังจากนั้นก็มีการพัฒนาสบู่จนแยกออกมาเป็นสบู่เพื่ออาบน้ำ,สบู่ซักผ้า,สบู่สำหรับเด็กอ่อนและอื่นๆจนกระทั่งมาถึงวันนี้
แหล่งของข้อมูล :.http://www.soaphistory.net/

ขับเคลื่อนโดย Blogger.

Featured post

Handmade Soap TAYAWON คุณสมบัติของน้ำมัน ว่าด้วย Lauric Acid

น้ำมันที่ใช้ในการทำสบู่ตามปฏิกริยา "Saponification Reaction "มีคุณสมบัติคล้ายคลึงกันแต่ต่างกันที่ปริมาณของสารที่ส่งผลต่อค...

top social


Home Ads

designcart

Advertisement

Text Widget

About me

ฟอร์มรายชื่อติดต่อ

ชื่อ

อีเมล *

ข้อความ *

Powered By Blogger

Labels

Instagram

Facebook

Ads

Ad Banner
Responsive Ads Here

Blogroll

recentposts

Instagram